1.สามารถสร้างติ่งกระจับ ในเคสที่คนไข้ริมฝีปากเดิม ค่อนข้างบาง ทำให้ได้กระจับเพิ่มขึ้น โดยริมฝีปากบางลงเพียงเล็กน้อย
2.ในเคส ที่คนไข้ปากเดิมเหี่ยว น่วม นุ่ม การสร้างติ่งกระจับด้วยกล้ามเนื้อ จะทำให้ติ่งกระจับหดตัว หรือที่เรียกว่า กระจับคลายตัวลดลง ทำให้ได้ทรงปาก ที่สวยงาม มากขึ้น
3.ในคนไข้บางราย มีรอยยู่ หวำ ของริมฝีปากตรงบริเวณ ที่จะสร้างติ่งกระจับ กากใช้เทคนิค ธรรมดา ทั่วไป จะให้ริมฝีปากบางมาก และติ่งกระจับที่ได้ อาจไม่คมสวย เหมือนการใช้กล้ามเนื้อมาช่วย
4.ในเทคนิคสร้างติ่งกระจับด้วยกล้ามเนื้อนี้ ช่วยให้ คนไข้ได้ติ่งกระจับที่สวยงามกว่า เทคนิคลิฟท์กราฟ ทั้งยังลดภาวะแทรกซ้อนทางการเเพทย์ที่เกิดจากเทคนิค ทั่วไป เช่น ในบางราย ทำลิฟท์กราฟ แล้วกลายเป็นก้อน ซิสต์ ตรงติ่งกระจับ
5.เมื่อเปรียบเทียบเทคนิค การสร้างติ่งกระจับ ด้วยกล้ามเนื้อ กับ เทคนิคลิฟท์กราฟแล้ว
เทคนิค กล้ามเนื้อช่วยให้ได้ติ่งกระจับมากกว่า ทรงสวยกว่า อัตราการติดของเนื้อเยื่อมากกว่า และภาวะเเทรกซ้อนน้อยกว่า อ่านต่อ..
แต่ ก็ทำได้ยากกว่า เทคนิคลิฟท์กราฟท์ เเพทย์ผู้ผ่าตัดต้องมีความชำนาญจริงๆ
- ข้อเสียของเทคนิคนี้
-คนไข้บางท่าน(ส่วนน้อย ประมาน 3-5%) เนื้อเยื่อริมฝีปาก มีเเต่ไขมัน กับชั้นใต้ผิวหนัง ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อ ก็จะทำเทคนิคนี้ไม่ได้ ต้องทำเทคนิคลิฟท์กราฟท์ตามปกติ
-แพทย์ผู้ผ่าตัด ต้องมีความชำนาญ หากแพทย์ขาดความชำนาญ ก็คาดหวังผลการผ่าตัดที่ดี จากทั้งสองเทคนิค ไม่ได้
**ริมฝีปาก ที่สามารถทำกระจับ โดยไม่ต้องใช้เทคนิคพิเศษใดๆ เข้าช่วย คือริมฝีปากที่สวยที่สุด เทคนิคเหล่านี้ เป็นเพียงการแก้ปัญหา ให้คนไข้ในแต่ละเคส
***ไม่ได้มีความจำเป็นต้องทำทุกเคส ควรทำตามข้อบ่งชี้ และเพื่อแก้ปัญหา ให้คนไข้ในแต่ละรายเท่านั้น
***หากแพทย์ท่านใดเชียร์ทำตลอดแทบทุกเคส ไม่ว่าเทคนิคใด ขอให้คนไข้รู้ว่า คงหวังผล แค่การตลาด หวังส่วนต่างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้อยู่บนผลประโยชน์ที่คนไข้จะได้รับจริงๆ
#ตัดปีกไม่ง่าย พังเเล้วพังเลย แก้ไขยากมาก หรือแก้ไม่ได้อีกเลย